7 วิธีล้างห้องน้ำสกปรกมาก ช่วยทำความสะอาดห้องน้ำได้ทั่วถึงทุกจุด เพิ่มสุขอนามัยที่ดี น่าใช้งาน ปลอดภัยจากเชื้อโรคร้ายที่มองไม่เห็น ห้องน้ำสกปรก ไม่น่าใช้งาน เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่หลาย ๆ บ้านต้องเผชิญ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่สวยงาม ไม่น่ามองแล้ว ยังเป็นที่อยู่อาศัยชั้นดีของเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และเชื้อโรคอื่น ๆ ที่มองไม่เห็นด้วย ซึ่งอาจส่งผลที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัวได้ BeHELP ขอแชร์ 7 วิธีล้างห้องน้ำสกปรกมาก มาช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับทุกคนกัน วิธีล้างห้องน้ำ ให้สะอาดทั่วทุกมุมใน 7 ขั้นตอน 1. ทำความสะอาดโซนเปียก สำหรับ ห้องน้ำ ที่มีการแบ่งโซนเปียกและโซนแห้ง จะต้องรู้ถึงวิธีการทำความสะอาดทั้ง 2 โซนอย่างเหมาะสม เพื่อที่จะได้กำจัดคราบสกปรกออกได้อย่างหมดจด โดยสำหรับโซนเปียกที่ใช้อาบน้ำนั้นมักจะมีคราบสบู่ คราบไขมัน เส้นผม รวมไปถึงความชื้นสะสมอยู่ตามก๊อกน้ำและฝักบัว ทำให้ห้องน้ำสกปรกไม่น่าใช้งาน เป็นที่อยู่ของเชื้อรา ราดำและเชื้อโรคประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้งานได้ วิธีทำความสะอาด ห้องน้ำ ก็เริ่มต้นด้วยการฉีดน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีฤทธิ์เป็นกรดทำลายพื้นผิว หรือใช้น้ำสบู่ใส่ขวดสเปรย์ฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณชั้นวาง ราวจับ ก๊อกน้ำ และอุปกรณ์อื่น ๆ ก่อนจะใช้ฟองน้ำขัดถูคราบสกปรกตามบริเวณต่าง ๆ
Category Archives: News
บางทีเราฟังหมออธิบายอย่างตั้งใจในห้องตรวจ แต่พอออกมาแล้วกลับนึกอะไรไม่ออกเลย ไม่ต้องกังวลไปครับ ถ้าเรามีเทคนิคเด็ดๆ ที่จะช่วยให้คุณจดจำคำแนะนำของหมอได้ เกริ่นนำ : “ทำไมเราถึงลืมคำแนะนำของหมอเร็วจัง?” เชื่อเถอะว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่เจอปัญหานี้หรอกนะ บางทีเราฟังหมออธิบายในห้องตรวจอย่างตั้งใจ แต่พอออกมาแล้วกลับนึกอะไรไม่ออกเลย ทำเอาปวดหัวกันเลยทีเดียว! แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้ผมมีเทคนิคเด็ด ๆ มาฝาก ที่จะช่วยให้คุณจดจำคำแนะนำของหมอได้มากขึ้น แถมยังนำไปปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องอีกด้วย! 1. จดบันทึก : เทคนิคการจดที่ช่วยให้จำได้ดีขึ้น เริ่มกันที่วิธีพื้นฐานที่สุด แต่ได้ผลดีเยี่ยมเลยนะครับ นั่นก็คือการจดบันทึก! แต่ไม่ใช่แค่จดธรรมดานะ เรามาดูกันว่าจะจดยังไงให้จำได้ดีขึ้น: ใช้สมุดเฉพาะสำหรับบันทึกคำแนะนำของหมอ แบ่งหน้ากระดาษเป็นสองส่วน: ด้านซ้ายสำหรับคำถาม ด้านขวาสำหรับคำตอบ ใช้สีหรือสัญลักษณ์เน้นข้อมูลสำคัญ วาดภาพประกอบง่าย ๆ ถ้าทำได้ (เช่น รูปยาเม็ดกับจำนวนครั้งที่ต้องทาน) วิธีนี้จะช่วยให้สมองของเราจดจำข้อมูลได้ดีขึ้น เพราะเราใช้ทั้งการเขียนและการมองเห็น! 2. ทวนซ้ำทันที: เทคนิคการทบทวนที่ช่วยให้จำแม่น ต่อมาเป็นเทคนิคที่ง่ายแต่ได้ผลมากเลยล่ะครับ นั่นก็คือการทวนซ้ำทันทีหลังจากพบหมอ! ลองทำแบบนี้ดูนะครับ: หลังออกจากห้องตรวจ หาที่นั่งสักพัก อ่านบันทึกที่เราจดไว้ซ้ำอีกครั้ง พยายามสรุปสิ่งที่หมอแนะนำด้วยคำพูดของเราเอง ถ้ามากับคนอื่น ลองเล่าให้เขาฟังว่าหมอแนะนำอะไรบ้าง การทวนซ้ำแบบนี้จะช่วยให้ข้อมูลติดอยู่ในความทรงจำระยะยาวของเราได้ดีขึ้นเยอะเลย!
ไปหาหมอแล้วไม่หาย ปัญหานี้ทำเอาหลายคนปวดหัวไม่แพ้อาการป่วยเลยใช่ไหมล่ะ? แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้เรามาดูกันว่าเราจะรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไงดี! เกริ่นนำ : วันนี้เรามาคุยกันเรื่องที่หลายคนอาจเคยเจอ นั่นก็คือ “ไปหาหมอแล้วไม่หาย” ปัญหานี้ทำเอาหลายคนปวดหัวไม่แพ้อาการป่วยเลยใช่ไหมล่ะ? เชื่อเถอะว่าคุณไม่ได้เจอคนเดียว มีคนอีกเยอะแยะที่เจอปัญหานี้เหมือนกัน แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้เรามาดูกันว่าเราจะรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไงดี! ทบทวนการวินิจฉัยและการรักษา: จุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหา ก่อนอื่นเลย เรามาเริ่มจากการทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นกันก่อนดีกว่า ลองถามตัวเองดูนะครับ: เราเล่าอาการให้หมอฟังครบถ้วนหรือยัง? เราเข้าใจคำอธิบายและคำแนะนำของหมอทั้งหมดไหม? เราทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอครบถ้วนหรือเปล่า? บางทีเราอาจจะลืมบอกอาการบางอย่างที่สำคัญไป หรืออาจจะไม่เข้าใจคำแนะนำของหมอทั้งหมด ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องอายที่จะโทรไปถามหมอเพิ่มเติมนะครับ หรือถ้าไม่สะดวก ก็ลองจดบันทึกคำถามไว้ เผื่อได้ถามในนัดครั้งต่อไป ขอความเห็นที่สอง: ไม่ใช่การไม่เชื่อใจหมอ แต่เป็นสิทธิของคนไข้ ถ้าเรามั่นใจว่าได้ทำทุกอย่างตามที่หมอแนะนำแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้น การขอความเห็นที่สองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนะครับ อย่าคิดว่าการขอความเห็นที่สองเป็นการไม่เชื่อใจหมอคนแรกนะครับ มันเป็นสิทธิของคนไข้เลยล่ะ! บางทีหมอคนที่สองอาจจะมีมุมมองหรือประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป ซึ่งอาจจะช่วยในการวินิจฉัยและรักษาได้ แต่อย่าลืมบอกหมอคนที่สองด้วยนะครับว่าเราเคยไปหาหมอมาแล้ว และได้รับการรักษาอะไรมาบ้าง เพื่อให้หมอมีข้อมูลครบถ้วนที่สุด พิจารณาทางเลือกอื่น ๆ: แพทย์แผนไทย หรือการแพทย์ทางเลือก ถ้าลองหาหมอแผนปัจจุบันมาหลายคนแล้วยังไม่ดีขึ้น บางทีอาจจะลองพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ ดูก็ได้นะครับ เช่น แพทย์แผนไทย หรือการแพทย์ทางเลือกต่าง ๆ แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะครับ
เชื่อเถอะว่าไม่มีใครอยากอยู่บ้านแล้วต้องคอยระวังมดไต่ขาโต๊ะหรือสะดุ้งเพราะแมลงสาบ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้ผมมีวิธีกำจัดแมลงในบ้านแบบปลอดภัยและได้ผลมาฝากกัน! เกริ่นนำ : ปัญหาสุดกวนใจที่หลายบ้านต้องเจอ นั่นก็คือ “แมลงในบ้าน” นั่นเอง! เชื่อเถอะว่าไม่มีใครอยากอยู่บ้านแล้วต้องคอยระวังมดไต่ขาโต๊ะ หรือสะดุ้งเพราะแมลงสาบบินมาเกาะไหล่แน่ ๆ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้ผมมีวิธีกำจัดแมลงในบ้านแบบปลอดภัยและได้ผลมาฝากกัน! รับรองว่าทำตามนี้ แมลงจะหายไปจากบ้านคุณอย่างแน่นอน ทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ: วิธีป้องกันที่ดีที่สุด! เริ่มต้นด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ได้ผลดีที่สุดเลยนะครับ นั่นก็คือการทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ! ลองคิดดูนะครับ ถ้าบ้านเราสะอาด ไม่มีเศษอาหารหรือขยะที่ดึงดูดแมลง แมลงพวกนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะมาอยู่บ้านเราใช่ไหมล่ะ? แนะนำให้ทำแบบนี้: เช็ดโต๊ะและพื้นทุกวัน โดยเฉพาะหลังทานอาหาร ทิ้งขยะทุกวัน อย่าปล่อยให้ล้นถัง ล้างจานทันทีหลังใช้ อย่าทิ้งไว้ในอ่าง เก็บอาหารในภาชนะที่ปิดสนิท ทำแบบนี้รับรองว่าแมลงจะไม่กล้ามาป้วนเปี้ยนแน่นอน! ใช้สมุนไพรไล่แมลง: วิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยและได้ผล ต่อมาเป็นวิธีธรรมชาติที่ทั้งปลอดภัยและได้ผลดีเลยล่ะครับ นั่นก็คือการใช้สมุนไพรไล่แมลง! แมลงหลายชนิดไม่ชอบกลิ่นของสมุนไพรบางอย่าง เราเลยสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้ ลองดูวิธีนี้ครับ: ตะไคร้หอม เป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพสูงในการไล่ยุง น้ำมันหอมระเหยในตะไคร้หอมมีสารซิโตรเนลลา (Citronella) ซึ่งเป็นสารที่ยุงไม่ชอบ การปลูกตะไคร้หอมไว้รอบบ้านจึงช่วยลดปริมาณยุงในบริเวณบ้านได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนำตะไคร้หอมมาทุบให้มีกลิ่นแรงขึ้นแล้ววางไว้ตามมุมห้องเพื่อไล่ยุงภายในบ้านได้ด้วย สำหรับการใช้งานที่เข้มข้นขึ้น สามารถสกัดน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้หอมมาผสมกับน้ำแล้วฉีดพ่นในบริเวณที่มียุงชุกชุม หรือทาบนผิวหนังเพื่อป้องกันยุงกัดได้ สะระแหน่ กลิ่นฉุนเฉพาะตัวของสะระแหน่มีประสิทธิภาพในการไล่แมลงหลายชนิด ทั้งมด
เชื่อไหมว่าบางครั้งเราป่วย แต่พอไปหาหมอแล้วกลับอธิบายอาการไม่ถูก ทำให้การวินิจฉัยอาจจะคลาดเคลื่อนได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะวันนี้ผมจะมาแชร์เทคนิคเด็ดๆ เกริ่นนำ : วันนี้เรามาคุยกันเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามกัน นั่นก็คือ “วิธีอธิบายอาการให้หมอเข้าใจ” เชื่อไหมครับว่าการอธิบายอาการที่ดีนั้นสำคัญมากๆ ต่อการวินิจฉัยและรักษาโรค แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี บางคนก็เขินอาย บางคนก็กลัวหมอดุ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะวันนี้ผมจะมาแชร์เทคนิคเด็ดๆ ในการอธิบายอาการให้หมอเข้าใจแบบเป๊ะๆ กันเลย! จดบันทึกอาการอย่างละเอียด เริ่มกันที่เทคนิคแรกเลยนะครับ นั่นก็คือการจดบันทึกอาการอย่างละเอียด! ในยุค 2024 นี้ เราไม่จำเป็นต้องพกสมุดโน้ตกันแล้ว แค่ใช้สมาร์ทโฟนของเราก็พอ ลองทำแบบนี้ดูนะครับ ทุกครั้งที่รู้สึกไม่สบาย ให้เปิดแอพบันทึกในมือถือ แล้วจดรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้: วันและเวลาที่เริ่มมีอาการ อาการที่เกิดขึ้นคืออะไรบ้าง (เช่น ปวดหัว มีไข้ คลื่นไส้) ความรุนแรงของอาการ (ลองให้คะแนนความเจ็บปวดจาก 1-10) มีอะไรที่ทำให้อาการดีขึ้นหรือแย่ลงบ้างไหม คุณทำอะไรในช่วงก่อนที่จะมีอาการนี้ การจดบันทึกแบบนี้จะช่วยให้คุณไม่ลืมรายละเอียดสำคัญ และคุณหมอจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อวินิจฉัยได้แม่นยำขึ้น ใช้เทคโนโลยีช่วยเก็บข้อมูล ต่อมาเรามาดูกันที่การใช้เทคโนโลยีช่วยเก็บข้อมูลกันบ้าง ในปี 2024 นี้ สมาร์ทวอทช์และอุปกรณ์สวมใส่ต่าง ๆ ได้พัฒนาไปไกลมาก ๆ
วันนี้ผมจะมาแชร์ 7 วิธีเด็ดๆ ที่จะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นอับในห้องนอนของคุณให้หายวับไปกับตา รับรองว่าทำตามแล้วห้องคุณจะหอมฟุ้งชวนนอนแน่นอน! เกริ่นนำ : วันนี้เรามาคุยกันเรื่องปัญหาสุดกวนใจที่หลายคนต้องเจอ นั่นก็คือกลิ่นเหม็นอับในห้องนอนนั่นเอง! รู้ไหมว่าบางทีเราอาจจะชินกับกลิ่นในห้องตัวเองจนไม่รู้สึก แต่พอมีแขกมาเยี่ยม โอ้โห… อายเขาแย่เลย! แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้ผมจะมาแชร์ 7 วิธีเด็ด ๆ ที่จะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นอับในห้องนอนของคุณให้หายวับไปกับตา รับรองว่าทำตามแล้วห้องคุณจะหอมฟุ้งชวนนอนแน่นอน! 1. เปิดหน้าต่างระบายอากาศ: วิธีง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้! เริ่มต้นด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดเลยนะครับ นั่นก็คือการเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสักหน่อย! ฟังดูเหมือนเรื่องธรรมดา แต่เชื่อไหมว่ามันช่วยได้จริง ๆ ลองทำแบบนี้ดูนะครับ: เปิดหน้าต่างทุกบานในห้องนอน ถ้าเป็นไปได้ เปิดประตูห้องด้วย เพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น ปล่อยให้อากาศถ่ายเทอย่างน้อย 15-30 นาที แค่นี้ กลิ่นอับก็จะค่อย ๆ จางหายไป แถมยังได้อากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนที่อีกด้วย! แนะนำให้ทำทุกเช้าเลยนะครับ รับรองว่าห้องนอนจะสดชื่นขึ้นแน่นอน 2. ใช้ถ่านดูดกลิ่น: ตัวช่วยธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพเกินคาด! ต่อมาเป็นวิธีที่อาจจะดูแปลกไปหน่อย แต่รับรองว่าได้ผลจริง นั่นก็คือการใช้ถ่านดูดกลิ่นครับ! วิธีทำก็ง่ายมาก: หาถ่านไม้มาสัก 2-3 ก้อน
รู้ไหมว่าเราสามารถทำน้ำยาทำความสะอาดสุดเจ๋งได้เองที่บ้าน โดยใช้ส่วนผสมง่ายๆ ที่หาได้ในครัวเรา มาดูกันว่ามีสูตรไหนบ้างที่จะช่วยให้บ้านของคุณกลับมาสะอาด! เกริ่นนำ : คราบฝังแน่นเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนปวดหัวไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นคราบบนพื้น ผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในบ้าน แต่รู้ไหมว่าเราสามารถทำน้ำยาทำความสะอาดสุดเจ๋งได้เองที่บ้าน โดยใช้ส่วนผสมง่ายๆ ที่หาได้ในครัวเรา มาดูกันว่ามีสูตรไหนบ้างที่จะช่วยให้บ้านของคุณกลับมาสะอาดเอี่ยมอ่องได้อย่างง่ายดาย! สารบัญ สูตรที่ 1: มหัศจรรย์เบกกิ้งโซดาผสมน้ำส้มสายชู ส่วนผสมและสัดส่วน: วิธีการเตรียมและการใช้งาน: การขัดและทำความสะอาด: สูตรที่ 2: พลังซุปเปอร์จากเกลือและมะนาว สูตรที่ 3: ขจัดคราบไขมันด้วยน้ำยาล้างจานและเบกกิ้งโซดา สูตรที่ 4: ทำความสะอาดพรมด้วยแป้งข้าวโพดและน้ำส้มสายชู สูตรที่ 5: ขจัดคราบตะกรันในห้องน้ำด้วยน้ำส้มสายชูและเกลือ สรุป สูตรที่ 1: มหัศจรรย์เบกกิ้งโซดาผสมน้ำส้มสายชู เริ่มกันที่สูตรสุดคลาสสิก ที่ใช้ได้กับเกือบทุกพื้นผิวเลยล่ะ: ส่วนผสมและสัดส่วน: การใช้เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยผสมกับน้ำส้มสายชูขาว 1/4 ถ้วยเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม เบกกิ้งโซดาทำหน้าที่เป็นสารขัดเบาๆ ที่ช่วยขจัดคราบโดยไม่ทำให้พื้นผิวเป็นรอย ในขณะที่น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยละลายคราบสกปรกและคราบหินปูน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคอีกด้วย การผสมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันจะได้น้ำยาทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องใช้สารเคมีรุนแรง วิธีการเตรียมและการใช้งาน: เริ่มจากการผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูในภาชนะที่สะอาด คนให้เข้ากันจนได้เนื้อครีมที่เหมาะสม
อยากไปหาหมอ แต่มีความกลัวและความวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกัน มาดูกันว่าเราจะเอาชนะความรู้สึกเหล่านี้ได้ยังไงบ้าง เกริ่นนำ : ใครหลายคนคงเคยรู้สึกใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ เมื่อต้องไปหาหมอใช่ไหมล่ะ? ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพประจำปี หรือไปรักษาอาการเจ็บป่วย ความกลัวและความวิตกกังวลมันก็มักจะแอบแฝงมาด้วยเสมอ แต่เฮ้! อย่าเพิ่งท้อใจไปนะ เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกัน มาดูกันว่าเราจะเอาชนะความรู้สึกเหล่านี้ได้ยังไงบ้าง สารบัญ เตรียมตัวให้พร้อม ความมั่นใจก็มาเอง การบันทึกอาการอย่างละเอียด: การเตรียมคำถามสำหรับแพทย์: การรวบรวมประวัติการรักษาและข้อมูลยา: การมีเพื่อนหรือญาติไปด้วย: การเตรียมเอกสารสำคัญ: การศึกษาข้อมูลเบื้องต้น: เข้าใจต้นตอความกลัว ทำใจให้สบาย หายใจเข้าลึกๆ พูดคุยกับหมออย่างเปิดใจ เตรียมตัวให้พร้อม ความมั่นใจก็มาเอง การเตรียมตัวที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการลดความกังวลนะ ลองทำตามนี้ดูสิ: การบันทึกอาการอย่างละเอียด: การจดบันทึกอาการของคุณอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญมาก ลองทำไดอารี่สุขภาพ โดยบันทึกทุกวันว่าคุณรู้สึกอย่างไร มีอาการใดบ้าง อาการเหล่านั้นรุนแรงแค่ไหน และมีปัจจัยอะไรที่อาจส่งผลต่ออาการ เช่น อาหาร การนอน หรือความเครียด การบันทึกอย่างละเอียดนี้จะช่วยให้แพทย์เห็นภาพรวมของสุขภาพคุณได้ชัดเจนขึ้น และอาจช่วยในการวินิจฉัยหรือปรับการรักษาได้อย่างเหมาะสม การเตรียมคำถามสำหรับแพทย์: ก่อนพบแพทย์ ให้เวลาตัวเองในการคิดและเขียนคำถามที่คุณอยากถาม อย่ากลัวที่จะถามคำถามที่อาจดูเล็กน้อยหรือไม่สำคัญ เพราะทุกคำถามล้วนมีความหมายต่อสุขภาพของคุณ จัดลำดับความสำคัญของคำถาม เผื่อเวลาไม่พอ
การตรวจสุขภาพเบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นประจำ เพื่อค้นหาความผิดปกติ ป้องกันโรค และติดตามสุขภาพ ปัจจุบันมีสถานที่ให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้นมากมาย ดังนี้ เกริ่นนำ : อยากตรวจสุขภาพแบบเบื้องต้น จะไปที่ไหนดีนะ?” ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสถานที่ต่าง ๆ ที่ให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น แบบครบๆ เลย! การตรวจสุขภาพเบื้องต้นนี่สำคัญมากๆ นะครับ เพราะมันช่วยให้เราค้นพบปัญหาสุขภาพตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ทำให้รักษาได้ทันท่วงที ไม่ปล่อยให้ลุกลามจนยากเกินเยียวยา แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาในระยะยาวอีกด้วย ดังนั้น อย่ารอช้า! มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้างที่เราสามารถไปตรวจสุขภาพเบื้องต้นได้ สารบัญ โรงพยาบาลรัฐบาล: ที่พึ่งของคนไทยทุกคน โรงพยาบาลเอกชน: สะดวก รวดเร็ว แต่ต้องควักกระเป๋าหน่อย คลินิกเวชกรรม: ทางเลือกที่ลงตัวระหว่างคุณภาพและราคา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ร้านขายยา: ตรวจเบื้องต้นได้ ใกล้แค่เอื้อม ข้อดีของร้านขายยาคือ แต่ข้อเสียก็คือ สรุป โรงพยาบาลรัฐบาล: ที่พึ่งของคนไทยทุกคน โรงพยาบาลรัฐบาลนี่แหละครับ ที่เรียกได้ว่าเป็น “ที่พึ่ง” ของคนไทยทุกคนจริง ๆ ที่นี่ให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้นแบบครบวงจรเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการวัดความดัน ตรวจน้ำตาลในเลือด ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง
วันนี้เรามีเทคนิคการพับผ้าแบบมาริเอะ คอนโดะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดระเบียบบ้านชื่อดัง มาช่วยให้ตู้เสื้อผ้าของคุณเป็นระเบียบ ประหยัดพื้นที่ หยิบจับง่ายในการเลือกใช้ เกริ่นนำ : วันนี้เรามาเจาะลึกกันเรื่องการจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าแบบสุดปังกันดีกว่า ใครที่เคยเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วรู้สึกว่า “โอ้โห! ทำไมมันรกจังเลย” บทความนี้มีคำตอบให้คุณแน่นอน เราจะมาเรียนรู้เทคนิคการพับผ้าแบบมาริเอะ คอนโดะ กูรูด้านการจัดบ้านระดับโลกกัน รับรองว่าหลังจากอ่านจบ คุณจะสามารถเนรมิตตู้เสื้อผ้าของคุณให้เป็นระเบียบ สวยงาม และประหยัดพื้นที่ได้อย่างน่าทึ่งเลยล่ะ! สารบัญ มาริเอะ คอนโดะ คือใคร? ทำไมวิธีพับผ้าของเธอถึงโด่งดังไปทั่วโลก? หลักการพื้นฐานของการพับผ้าแบบมาริเอะ คอนโดะ วิธีพับเสื้อยืดแบบมาริเอะ คอนโดะ วิธีพับกางเกงแบบมาริเอะ คอนโดะ วิธีพับชุดชั้นในแบบมาริเอะ คอนโดะ วิธีพับถุงเท้าแบบมาริเอะ คอนโดะ สรุป มาริเอะ คอนโดะ คือใคร? ทำไมวิธีพับผ้าของเธอถึงโด่งดังไปทั่วโลก? ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้เทคนิคการพับผ้า มารู้จักกับ มาริเอะ คอนโดะ กันสักหน่อยดีกว่า มาริเอะ คอนโดะ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดบ้านชาวญี่ปุ่น เธอโด่งดังจากหนังสือ “The Life-Changing Magic of Tidying Up”