กฎหมายไทยกับรถAMBULANCE: สิทธิพิเศษ vs. ความรับผิดชอบ

เคยสงสัยไหมว่ารถ AMBULANCE มีสิทธิพิเศษอะไรบ้าง? หรือหากเราขับขวางทาง จะมีความผิดหรือไม่ บทความนี้รวบรวมข้อมูลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถ AMBULANCE กัน

เกริ่นนำ :

ใครเคยได้ยินเสียงไซเรนรถ AMBULANCE พาไปหาหมอดังลั่น แต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี เคยไหม? สงสัยว่ารถ AMBULANCE มีสิทธิพิเศษอะไรบ้าง เคยไหม? กังวลว่าหากเราขับขวางทาง จะมีความผิดหรือไม่? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ!  รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้องกับรถ AMBULANCE มาให้คุณเข้าใจง่ายๆ  ไม่ต้องงง!  ไม่ต้องกังวล!

 

สารบัญ

  • สิทธิพิเศษของรถ AMBULANCE
    • สัญญาณเสียงดังไซเรนและไฟเตือนทาง พร้อมเปิดช่องทางพิเศษขับเคลื่อนสู่จุดหมาย
    • อำนาจในการฝ่าไฟแดงได้ เพื่อทะลุเส้นทางด้วยความรับผิดชอบสูงสุด
    • ไม่เพียงมีสิทธิพิเศษ แต่ยังขอความร่วมมือได้จากผู้ใช้ถนนทุกราย
  • ความรับผิดชอบของคนขับรถ AMBULANCE
  • หากผู้ป่วยอยู่ในกรณีไม่ฉุกเฉิน สามารถใช้บริการรับจ้างพาไปหาหมอ ของ BeHELP Application ได้

 

สิทธิพิเศษของรถ AMBULANCE

รถ AMBULANCE มีสิทธิพิเศษเหนือกฎจราจร เพื่อความรวดเร็วในการช่วยชีวิต:

สัญญาณเสียงดังไซเรนและไฟเตือนทาง พร้อมเปิดช่องทางพิเศษขับเคลื่อนสู่จุดหมาย

เมื่อรถ AMBULANCE ต้องเร่งรีบนำผู้ป่วยฉุกเฉินพาไปหาหมอยังสถานพยาบาลโดยเร็วที่สุด พวกมันจะเปิดสัญญาณไซเรนดังก้องและไฟกระพริบสั่นไหว เพื่อขอทางจากยานพาหนะอื่นๆ บนท้องถนน เสียงไซเรนที่ดังหนาวเฉียบพร้อมดวงไฟสีแดงสลับฟ้ากระพริบนั้น จะช่วยดึงดูดสายตาจากผู้ขับขี่และคนเดินถนนให้จดจ่ออยู่กับ AMBULANCE คันนั้น พร้อมเปิดให้ทางแก่รถฉุกเฉินคันสำคัญที่กำลังรีบเร่ง ด้วยสิทธิพิเศษในการใช้ช่องทางจราจรพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นไหล่ถนน ช่องทางตรงกันข้าม หรือเส้นทางลัดผ่านอื่นๆ AMBULANCE จึงสามารถขับผ่านไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็วที่สุด

อำนาจในการฝ่าไฟแดงได้ เพื่อทะลุเส้นทางด้วยความรับผิดชอบสูงสุด

ไม่เพียงแต่จะได้รับสิทธิพิเศษในการใช้เส้นทางลัดเท่านั้น รถ AMBULANCE ยังมีอำนาจในการฝ่าไฟแดงไปข้างหน้าได้ด้วย แต่ทั้งนี้การใช้อำนาจในครั้งนี้จำเป็นต้องมีความระมัดระวังสูงสุด พนักงานขับรถ AMBULANCE ต้องตรวจสอบสภาพการจราจรโดยรอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนจะตัดสินใจฝ่าสัญญาณจราจรไปข้างหน้า เพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นกับตนเองหรือผู้อื่น ซึ่งอาจสร้างความเสียหายที่ร้ายแรงขึ้นได้ ทั้งนี้ล้วนเป็นไปเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ร่วมใช้ถนนด้วยกันทั้งสิ้น

ไม่เพียงมีสิทธิพิเศษ แต่ยังขอความร่วมมือได้จากผู้ใช้ถนนทุกราย

นอกเหนือจากสิทธิพิเศษในการใช้ช่องทางจราจรพิเศษและการฝ่าสัญญาณไฟจราจรแล้ว รถ AMBULANCE ยังสามารถขอความร่วมมือจากผู้ใช้ถนนทุกรายได้ด้วย เช่น การร้องขอให้รถคันอื่นๆ ที่อยู่บนเส้นทางเดียวกันจอดรถหลีกทางให้ หรือหากรถเหล่านั้นอยู่ในสภาวะที่จอดไม่ได้ ก็อาจร้องขอให้เปิดช่องทางผ่านไปได้ชั่วคราว แน่นอนว่าทั้งหมดล้วนเป็นไปเพื่อการเคลื่อนที่ที่รวดเร็วและปลอดภัย เพื่อให้รถ AMBULANCE สามารถนำร่างกายผู้ป่วยพาไปหาหมอถึงสถานพยาบาลได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่เหตุการณ์วิกฤตจะลุกลามขึ้นเป็นเรื่องร้ายแรง หากผู้ขับขี่หรือคนเดินถนนทุกคนให้ความร่วมมือกับ AMBULANCE ก็จะช่วยให้ชีวิตของคนป่วยรอดพ้นจากเหตุการณ์คับขันไปได้

 

ความรับผิดชอบของคนขับรถ AMBULANCE

เมื่อใช้สิทธิพิเศษในการเปิดช่องทางจราจรพิเศษ ฝ่าไฟแดง หรือขอความร่วมมือจากผู้ใช้ถนนอื่นๆ รถ AMBULANCE มีความรับผิดชอบที่สำคัญดังต่อไปนี้:

  1. การแจ้งเตือนด้วยสัญญาณไฟกระพริบและเสียงไซเรนดังก้อง เพื่อให้ผู้ขับขี่และคนเดินถนนทุกคนได้รับรู้ถึงสถานการณ์ฉุกเฉินและเปิดทางให้แก่รถ AMBULANCE ผู้ให้บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินจำเป็นต้องระมัดระวังเปิดสัญญาณเตือนอย่างเต็มที่ ขณะใช้สิทธิพิเศษในการแล่นไปบนเส้นทางลัด หรือฝ่าสัญญาณจราจร เพื่อสร้างความตระหนักในระดับสูงสุดให้แก่บุคคลอื่นบนท้องถนน
  2. ผู้ขับขี่รถ AMBULANCE จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุดตลอดเส้นทางการเดินรถ แม้จะได้รับสิทธิพิเศษแต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยฉุกเฉินที่กำลังให้บริการและผู้ใช้ถนนทุกราย มิให้เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอันจะก่อให้เกิดความสูญเสียและเสียหายมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงต้องควบคุมสถานการณ์อย่างไม่ประมาท
  3. ในสภาวะปกติที่ไม่มีใช้สิทธิพิเศษใดๆ รถ AMBULANCE จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎจราจรทั่วไปเช่นเดียวกับยานพาหนะคันอื่นๆ เพื่อมิให้เกิดความสับสนและก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้ถนนทุกคน ซึ่งอาจเรียกร้องความรับผิดชอบในกรณีเกิดเหตุละเมิดกฎหมายจราจรโดยรถ AMBULANCE เองก็เป็นได้ สิทธิพิเศษจึงมิได้เป็นการยกเว้นให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ละเลยหรือหลีกเลี่ยงกฎกติกาบนท้องถนนในสถานการณ์ทั่วไปแต่อย่างใด

 

หากผู้ป่วยอยู่ในกรณีไม่ฉุกเฉิน สามารถใช้บริการรับจ้างพาไปหาหมอ ของ BeHELP Application ได้

BeHELP Application ได้เปิดตัวบริการพิเศษ “รับจ้างพาไปหาหมอ” เพื่อตอบโจทย์ปัญหาดังกล่าวนี้ โดยบริการพาไปหาหมอนี้จะเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน แต่ต้องการความสะดวกสบายและการดูแลเป็นพิเศษในระหว่างการเดินทางไปพบแพทย์

เริ่มต้นด้วยการดาวน์โหลด BeHELP Application ลงบนมือถือของคุณ และจองบริการพาไปหาหมอล่วงหน้าได้เลย พนักงานจะให้คำปรึกษาและช่วยวางแผนการเดินทางให้คุณ มีตัวเลือกหลากหลายประเภทของรถยนต์

ความสำคัญของบริการพาไปหาหมอนี้คือ พนักงานขับรถจะได้รับการอบรมเป็นพิเศษ มีความเข้าใจในการดูแลผู้สูงอายุ สามารถช่วยพยุงท่านขึ้น-ลงจากรถได้อย่างถูกวิธี ระหว่างทางก็จะคอยดูแลความปลอดภัยและสบายของท่านผู้สูงอายุด้วย

และสิ่งที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ คุณสามารถเลือกให้พนักงานรออยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าท่านจะเสร็จสิ้นการพบแพทย์ แล้วค่อยพาท่านกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องกังวลกับการรอนาน หรือลำบากกับการเดินทางกลับ

ด้วยบริการพาผู้สูงอายุไปหาหมอของ BeHELP แสดงให้เห็นว่าบริษัทให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและปลอดภัยของผู้สูงวัยเป็นอย่างมาก มีความเข้าใจในข้อจำกัดและความต้องการเป็นพิเศษของท่าน พร้อมดูแลท่านตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนกระทั่งกลับถึงบ้านโดยปลอดภัย

 

สรุป

การมีทางเลือกในการพาไปหาหมอที่หลากหลายนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับลูกหลานทั้งหลาย เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเวลาและแรงกายแล้วยังให้ความมั่นใจได้ว่าท่านจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดตลอดการเดินทางครั้งนี้ด้วย สมกับบริการระดับพรีเมียมจากแอปพลิเคชันที่น่าไว้วางใจอย่าง BeHELP แน่นอน.

 

💛 BeHELP เพราะทุกเรื่องเราช่วยได้ 💛

***********************************************

BeHELP ช่วยให้คนที่คุณรักได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา

ติดต่อสอบถาม : inbox page

Tel : 02-096-5479 กด 1

Line ID : @behelp

Website : www.behelpthailand.com

เริ่มดาวน์โหลด BeHELP บน App Store / Play Store ได้ตลอด 24 ชม. ⭐️โปรโมชั่นเพียบ