กรณีฉุกเฉินของผู้ป่วย ที่ต้องพาไปหาหมอทันที เตรียมตัวก่อนเพื่อรับมือ !

เผชิญเหตุการณ์ฉุกเฉินกับสมาชิกในครอบครัว? ควรทำอย่างไรในการพาไปหาหมอ? บทความนี้จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินของผู้ป่วย

เกริ่นนำ : วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องที่สำคัญมากๆ นั่นก็คือ การเตรียมตัวรับมือในการพาไปหาหมอกับภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์นั่นเองค่ะ พูดถึงเรื่องนี้แล้ว หลายคนอาจจะคิดว่า มันน่าจะไม่เกิดขึ้นกับเราหรอก แต่จริงๆ แล้วนะคะ สถานการณ์ฉุกเฉินเหล่านี้มันมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกับตัวเราเอง คนในครอบครัว หรือคนรอบข้าง โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว!

สารบัญ

  • กรณีฉุกเฉินของผู้ป่วย
  • สิ่งที่ควรทำ
  • เหตุผลที่ควรเลือกรถใช้บริการพาไปหาหมอ
  • สรุป

กรณีฉุกเฉินของผู้ป่วย

การเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือการบาดเจ็บรุนแรงนั้นเป็นสถานการณ์ที่ต้องพาไปหาหมออย่างเร่งด่วน หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีอาจส่งผลให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตหรือทำให้ร่างกายพิการได้ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องระบุและเข้าใจสัญญาณบ่งชี้ภาวะฉุกเฉินเหล่านี้เพื่อการปฏิบัติที่ถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งมีดังต่อไปนี้

  • หมดสติ เป็นอาการที่ผู้ป่วยหรือบุคคลนั้นขาดการรับรู้ สูญเสียความรู้สึกตัว ร่างกายอ่อนแรง ตัวแข็งทื่อ อาจมีอาการสั่นเฝ้อนหรือชักได้ สาเหตุอาจเกิดจากการขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูง ความดันโลหิตต่ำผิดปกติ พิษจากสารเคมี อุบัติเหตุทางสมอง เป็นต้น
  • หายใจไม่สะดวก ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก หอบเหนื่อย เสียงครืดคราด นอกจากนี้อาจมีอาการไอรุนแรง ริมฝีปากหรือเล็บเริ่มเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ซึ่งเป็นสัญญาณของการขาดอากาศหายใจ อาจเกิดจากโรคระบบทางเดินหายใจ การอุดกั้นทางเดินหายใจ อาการแพ้รุนแรง เป็นต้น
  • ชัก ลักษณะที่สังเกตได้ชัดคือร่างกายของผู้ป่วยจะมีการกระตุกและสั่นไปมาอย่างรุนแรงโดยขาดการควบคุม อาจชักทั้งตัวหรือบางส่วน มีฟองคลายที่ปากและอาจขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระออกมาโดยไม่รู้ตัว สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติทางสมอง โรคลมชัก ภาวะสมองขาดออกซิเจน สารพิษ หรืออุบัติเหตุทางสมองบางประเภท
  • เลือดออกมาก เป็นอาการที่ร่างกายสูญเสียเลือดออกมาในปริมาณที่มากกว่าปกติ อันเนื่องมาจากการบาดเจ็บหรือเป็นแผล จากกระเพาะอาหารหรือลำไส้ หรือจากโรคเลือดบางชนิด ผู้ป่วยอาจแสดงอาการซีดเผือด หน้ามืดเป็นลม ชีพจรเบาและเร็ว หากสูญเสียเลือดมากเกินไปอาจทำให้เสียชีวิตได้
  • เจ็บหน้าอก อาการเจ็บหน้าอกรุนแรงโดยเฉพาะบริเวณกลางหน้าอกด้านซ้ายร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น หายใจไม่สะดวก เหงื่อออกมาก รู้สึกเวียนศีรษะ อ่อนแรง อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคหัวใจขาดเลือด ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน หรือหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง อาการปวดท้องสาหัสนับเป็นอาการฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หากเกิดจากการติดเชื้อหรือการอักเสบรุนแรง อวัยวะอุดตัน ถุงน้ำดีแตก ลำไส้อุดตันหรือทะลุ ตับวาย หรือถูกบาดเจ็บจากแรงกระแทกหรือของมีคม อาการปวดท้องดังกล่าวมักมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น อาเจียน ท้องผูก ตัวร้อน ซึ่งบ่งบอกถึงความรุนแรง

สิ่งที่ควรทำ

เมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์ การรู้จักปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็วและเหมาะสม ดังนั้น สิ่งที่ควรทำมีดังนี้:

  1. ประเมินสถานการณ์เบื้องต้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นโทรแจ้งสายด่วนแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ทันที โดยบอกรายละเอียดเหตุการณ์ อาการของผู้ป่วย และสถานที่เกิดเหตุอย่างชัดเจน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์และส่งหน่วยปฐมพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุโดยเร็วที่สุด
  2. ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้ป่วย หากมีความรู้และความสามารถ โดยพยายามรักษาอาการให้คงที่จนกว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ แต่หากไม่มีความรู้ด้านการปฐมพยาบาล ควรรอรับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์
  3. เตรียมเอกสารสำคัญของผู้ป่วย เช่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประกันสุขภาพ และเอกสารเกี่ยวกับประวัติการแพ้ยา ประวัติการรักษาโรค เป็นต้น เพื่อสะดวกต่อการให้บริการของแพทย์และเจ้าหน้าที่
  4. เลือกรูปแบบการเดินทางไปโรงพยาบาลที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่นบริการพาไปหาหมอของ BeHELP Application

การกระทำที่ถูกต้องและรวดเร็วเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะอาจส่งผลต่อชีวิตของผู้ป่วย ด้วยการประเมินสถานการณ์ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การเตรียมเอกสารสำคัญ และการเลือกรูปแบบการเดินทางที่เหมาะสม จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือและการรักษาอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เหตุผลที่ควรเลือกรถใช้บริการพาไปหาหมอ หรือ บริการรับส่งผู้สูงอายุ

การเลือกใช้บริการรถรับ-ส่งออนไลน์นั้นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องไปพบแพทย์หรือโรงพยาบาล ด้วยข้อดีหลายประการ ดังนี้:

  • ประหยัดเวลาอย่างมาก เมื่อเทียบกับการขับรถหรือใช้รถสาธารณะ บริการรถรับ-ส่งออนไลน์ช่วยลดเวลาในการเดินทางอย่างมีนัยสำคัญ โดยคุณไม่จำเป็นต้องหาที่จอดรถ เสียเวลาเดินจากที่จอดรถไปยังอาคารโรงพยาบาล หรือต้องออกเดินทางล่วงหน้ามากเพื่อแก้ปัญหารถติด คนขับจะพามาส่งถึงหน้าประตูโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาอย่างมหาศาล พร้อมทั้งเป็นผู้ช่วยตลอดการรักษาพยาบาลอีกด้วย
  • ไม่ต้องกังวลกับปัญหาการจราจรติดขัด รถรับ-ส่งออนไลน์มีระบบนำทางและคนขับผู้ชำนาญการ สามารถวางแผนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงจุดจราจรคับคั่ง ช่วยให้การเดินทางราบรื่นและไม่สูญเสียเวลากับการรอรถติด อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลกับการเสี่ยงสายตาหรือหลงทางอีกด้วย
  • ราคาค่าบริการเป็นมิตรไม่แพงจนเกินไป แอปพลิเคชันรถรับ-ส่งพาไปหาหมอออนไลน์มักจะคำนวณราคาที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากระยะทางและเวลาในการเดินทาง ซึ่งโดยรวมแล้วค่าใช้จ่ายจะไม่สูงมากนัก และยังสามารถประหยัดต้นทุนในการเดินทางได้มากกว่าการขับรถส่วนตัว เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน ค่าจอดรถ หรือค่าซ่อมบำรุงรถ ตลอดจนลดภาระของลูกหลายที่จำเป็นต้องลางานประจำมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุซึ่งในความเป็นจริงการลาลักษณะนี้มักมีผลกระทบกับอาชีพการงานโดยตรงหากทำเป็นประจำ

สรุป

ดังนั้น หากคุณหรือคนในครอบครัวเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินและต้องการความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางไปพบแพทย์ การสั่งบริการรถรับ-ส่งผู้ป่วยออนไลน์ของ BeHELP เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยความรวดเร็ว ราคาที่เหมาะสม และสามารถช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมาก ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับการจราจรติดขัดหรือการหาที่จอดรถ เพียงแค่ใช้บริการพาไปหาหมอผ่านแอปพลิเคชัน BeHELP คุณก็จะได้รถรับ-ส่งผู้ป่วยมาถึงหน้าบ้านหรือที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว พร้อมนำส่งโรงพยาบาลที่ต้องการอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

💛 BeHELP เพราะทุกเรื่องเราช่วยได้ 💛

***********************************************

BeHELP ช่วยให้คนที่คุณรักได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา

ติดต่อสอบถาม : inbox page

Tel : 02-096-5479 กด 1

Line ID : @behelp

Website : www.behelpthailand.com

เริ่มดาวน์โหลด BeHELP บน App Store / Play Store ได้ตลอด 24 ชม. ⭐️โปรโมชั่นเพียบ