วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ โรคที่เป็นกันบ่อยในช่วงนี้

การรู้จักวิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น บทความนี้จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง

เกริ่นนำ : ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โรคไข้หวัดใหญ่มักจะระบาดและส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ การรู้จักวิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น บทความนี้จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับอาการป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพและกลับมาแข็งแรงได้ในเวลาอันรวดเร็ว

พักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อนเป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นฟูร่างกายเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ ร่างกายของเราต้องการพลังงานเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัส ดังนั้นการนอนหลับให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้พลังงานมากจึงเป็นสิ่งจำเป็น พยายามนอนอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงต่อวัน และหากรู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างวัน ไม่ควรฝืนทำงานหรือทำกิจกรรมหนักๆ แต่ควรพักผ่อนเพิ่มเติม การพักผ่อนที่เพียงพอไม่เพียงแต่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อีกด้วย

ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ ร่างกายมักจะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติผ่านทางเหงื่อและน้ำมูก การดื่มน้ำและของเหลวให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก พยายามดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน นอกจากน้ำเปล่าแล้ว คุณยังสามารถดื่มน้ำซุปใส น้ำผลไม้ที่ไม่หวานจัด หรือเครื่องดื่มสมุนไพรอุ่นๆ เช่น น้ำขิง น้ำมะนาวอุ่น เพื่อช่วยบรรเทาอาการและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกได้อีกด้วย

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และง่ายต่อการย่อย

แม้ว่าคุณอาจรู้สึกเบื่ออาหารเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูร่างกาย เช่น โจ๊กหรือข้าวต้มใส่ไข่ ซุปผัก ผลไม้สด หรืออาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดีแต่ย่อยง่าย เช่น ปลานึ่ง หรือไก่ต้ม

พยายามรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม กีวี พริกหวาน เพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และอาหารที่มีสังกะสี เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว หรือเมล็ดฟักทอง ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูเซลล์และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารมัน หรืออาหารที่ย่อยยาก เพื่อไม่ให้ระบบย่อยอาหารต้องทำงานหนักเกินไป

ใช้ยาบรรเทาอาการอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์

การใช้ยาอย่างเหมาะสมเป็นส่วนสำคัญในการรักษาและบรรเทาอาการของไข้หวัดใหญ่ แม้ว่ายาจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่การใช้ยาอย่างไม่ถูกต้องอาจนำมาซึ่งผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ต่อไปนี้เป็นแนวทางการใช้ยาบรรเทาอาการไข้หวัดใหญ่อย่างเหมาะสม:

ยาลดไข้และบรรเทาปวด

ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ช่วยลดอุณหภูมิร่างกายและบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ ควรใช้ตามขนาดและความถี่ที่แนะนำ

ยาแก้แพ้

ยาแก้แพ้สามารถช่วยลดอาการคัดจมูกและน้ำมูกไหล แต่อาจทำให้ง่วงนอนได้ ควรระวังเป็นพิเศษหากต้องขับขี่ยานพาหนะ

การใช้ยาร่วมกัน

หลีกเลี่ยงการใช้ยาหลายชนิดร่วมกันโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาและผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

ยาปฏิชีวนะ

ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาไข้หวัดใหญ่ เว้นแต่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนและได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์

การปฏิบัติตามคำแนะนำ

อ่านฉลากยาและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที

รักษาสุขอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

การรักษาสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญไม่เพียงแต่เพื่อช่วยให้ตัวเองหายเร็วขึ้น แต่ยังช่วยป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นด้วย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาดอย่างน้อย 20 วินาที โดยเฉพาะหลังจากไอ จาม หรือสั่งน้ำมูก ใช้กระดาษทิชชูปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม และทิ้งทิชชูที่ใช้แล้วลงในถังขยะทันที

หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ พักอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายดีเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ และหากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

สังเกตอาการและควรรู้เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

แม้ว่าไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 5-7 วัน แต่ในบางกรณีอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ ดังนั้นการสังเกตอาการว่าเมื่อไหร่ควรพบแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้:

  • ไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียสที่ไม่ลดลงแม้ใช้ยาลดไข้
  • หายใจลำบาก หอบ หรือเจ็บหน้าอก
  • อาเจียนรุนแรงหรือต่อเนื่อง
  • สับสน ซึมลง หรือมีอาการทางระบบประสาท
  • อาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงหลังจากผ่านไป 5-7 วัน

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการของไข้หวัดใหญ่ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

สรุป

การดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่อย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น อย่างไรก็ตาม หากคุณหรือคนที่คุณรักเป็นผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัว การพาไปหาหมอเมื่อมีอาการป่วยเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับครอบครัวที่มีภาระงานประจำ

หากคุณกำลังมองหาบริการพาผู้สูงอายุไปหาหมอ หรือต้องการความช่วยเหลือในการรับจ้างพาไปหาหมอ แอปพลิเคชัน BeHELP อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ BeHELP เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือกับผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นการพาไปหาหมอตามนัด การดูแลระหว่างพักฟื้น หรือแม้แต่การช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน BeHELP พร้อมให้บริการด้วยความใส่ใจและมืออาชีพ ดาวน์โหลด BeHELP วันนี้ เพื่อความสบายใจในการดูแลคนที่คุณรักให้ได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมและทันท่วงที.

 

💛 BeHELP เพราะทุกเรื่องเราช่วยได้ 💛

***********************************************

BeHELP ช่วยให้คนที่คุณรักได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา

ติดต่อสอบถาม : inbox page

Tel : 02-096-5479 กด 1

Line ID : @behelp

Website : www.behelpthailand.com

เริ่มดาวน์โหลด BeHELP บน App Store / Play Store ได้ตลอด 24 ชม. ⭐️โปรโมชั่นเพียบ