10 เทคนิคทำความสะอาดบ้านแบบมืออาชีพ

วันนี้เรามี 10 เทคนิคเด็ด ๆ ที่จะช่วยให้คุณทำความสะอาดบ้านได้อย่างมืออาชีพ แถมประหยัดเวลาและแรงงานอีกด้วย! ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดขัดหรือแม่บ้านที่มีฝีมือ

เกริ่นนำ :

“การทำความสะอาดบ้าน” เชื่อเถอะว่าไม่มีใครอยากใช้เวลาทั้งวันกับการขัดถู เช็ดถู หรือดูดฝุ่นหรอกใช่ไหมล่ะ? แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะวันนี้ผมจะมาแชร์ 10 เทคนิคเด็ด ๆ ในการทำความสะอาดบ้านแบบมืออาชีพ ที่จะช่วยให้บ้านของคุณสะอาดเอี่ยมอ่องในเวลาอันรวดเร็ว แถมยังประหยัดแรงอีกด้วย! มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

1. วางแผนก่อนลงมือทำ

การวางแผนเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมากในการทำความสะอาดบ้านแบบมืออาชีพ ลองนึกภาพว่าคุณเป็นแม่ทัพกำลังจะออกรบ คุณต้องมีแผนการที่ชัดเจนก่อนลงสนามรบใช่ไหมล่ะ? การทำความสะอาดบ้านก็เช่นกัน!

เริ่มจากการสำรวจพื้นที่ทั้งหมดในบ้าน จดบันทึกว่าแต่ละห้องต้องทำอะไรบ้าง เช่น ห้องนั่งเล่นต้องดูดฝุ่น เช็ดกระจก และจัดโต๊ะ ห้องครัวต้องล้างจาน เช็ดเคาน์เตอร์ และถูพื้น แล้วจัดลำดับความสำคัญว่าควรทำอะไรก่อนหลัง

2. เริ่มจากบนลงล่าง

ลองนึกภาพว่าคุณเพิ่งถูพื้นเสร็จ แล้วดันนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ปัดฝุ่นบนชั้นวางของ พอปัดฝุ่น ฝุ่นก็ร่วงลงมาเลอะพื้นที่เพิ่งถูเสร็จ น่าหงุดหงิดใช่ไหมล่ะ?

ดังนั้น ให้เริ่มจากการทำความสะอาดเพดาน ไฟติดเพดาน ชั้นวางของสูง ๆ แล้วค่อย ๆ ไล่ลงมาที่โต๊ะ เก้าอี้ และสุดท้ายคือพื้น วิธีนี้จะช่วยให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกตกลงมาที่พื้น ซึ่งเราจะจัดการเป็นขั้นตอนสุดท้าย

3. เทคนิคการทำความสะอาดห้องน้ำแบบมืออาชีพ

ห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพราะเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเชื้อโรค มาดูเทคนิคการทำความสะอาดห้องน้ำแบบมืออาชีพกัน!

เริ่มจากการฉีดน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำทิ้งไว้สัก 5-10 นาที เพื่อให้น้ำยาออกฤทธิ์ขจัดคราบสกปรกและฆ่าเชื้อโรค ระหว่างรอ ให้เราทำความสะอาดกระจกและอ่างล้างหน้าไปก่อน

สำหรับโถสุขภัณฑ์ ใช้แปรงขัดโถให้ทั่วทั้งด้านในและขอบโถ อย่าลืมทำความสะอาดใต้ขอบโถด้วยนะ เพราะเป็นจุดที่มักมีคราบสกปรกสะสม

4. เคล็ดลับการทำความสะอาดห้องครัวอย่างมีประสิทธิภาพ

ห้องครัวเป็นหัวใจของบ้าน แต่ก็เป็นแหล่งสะสมคราบมันและกลิ่นอาหารได้ง่าย มาดูวิธีทำความสะอาดห้องครัวให้สะอาดเอี่ยมอ่องกัน!

  1. เริ่มจากการจัดการกับจานชามและอุปกรณ์ในอ่างล้างจาน ล้างให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง จากนั้นเช็ดทำความสะอาดเคาน์เตอร์และโต๊ะในครัว โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ
  2. สำหรับเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะสำหรับเตา ทิ้งไว้สักพักแล้วเช็ดออก หากมีคราบไหม้ติดแน่น ลองใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำให้เป็นเพสต์ทาทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วค่อยขัดออกในวันรุ่งขึ้น
  3. อย่าลืมทำความสะอาดตู้เย็นด้วยนะ! เช็ดทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายใน โดยเฉพาะบริเวณขอบยางของประตูตู้เย็น ซึ่งมักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา

5. การดูดฝุ่นและถูพื้นอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับการดูดฝุ่น ให้เริ่มจากมุมห้องแล้วค่อย ๆ เคลื่อนออกมา ทำเป็นแนวเส้นตรงทับซ้อนกันเล็กน้อยเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีจุดไหนตกหล่น อย่าลืมดูดฝุ่นใต้เฟอร์นิเจอร์และตามซอกมุมต่าง ๆ ด้วยนะ

ส่วนการถูพื้น ให้เริ่มจากมุมห้องที่ไกลประตูที่สุด แล้วถอยหลังออกมาเรื่อย ๆ จนถึงประตู วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องเดินย้อนกลับไปบนพื้นที่เพิ่งถูเสร็จ

6. เทคนิคการทำความสะอาดหน้าต่างและกระจกให้ใสกิ๊ง

เริ่มจากการปัดฝุ่นและใยแมงมุมออกก่อน จากนั้นใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจกฉีดพ่นให้ทั่ว แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์หรือผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดในแนวนอนจากบนลงล่าง วิธีนี้จะช่วยป้องกันรอยคราบที่อาจเกิดขึ้นได้

เคล็ดลับเด็ด: ลองใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำในอัตราส่วน 1:1 แทนน้ำยาทำความสะอาดกระจกดูนะ นอกจากจะประหยัดแล้ว ยังช่วยขจัดคราบสกปรกได้ดีไม่แพ้กันเลย แถมไม่ทิ้งคราบและกลิ่นฉุนด้วย!

7. การจัดการกับฝุ่นและภูมิแพ้อย่างมีประสิทธิภาพ

เริ่มจากการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดตามพื้นผิวต่าง ๆ แทนการปัดฝุ่นแห้ง ๆ วิธีนี้จะช่วยจับฝุ่นได้ดีกว่าและไม่ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย

สำหรับพรมและเฟอร์นิเจอร์บุนวม ให้ดูดฝุ่นอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยใช้หัวดูดที่มีแปรงนุ่ม ๆ เพื่อไม่ให้เส้นใยเสียหาย

8. การกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้าน

สำหรับห้องครัว ลองต้มน้ำผสมเปลือกส้มและอบเชยสักเล็กน้อย กลิ่นหอมจะช่วยดับกลิ่นอาหารได้ดี หรือจะวางถ้วยเบกกิ้งโซดาไว้มุมห้องก็ช่วยดูดซับกลิ่นได้นะ

ส่วนห้องนอน ลองใช้น้ำมันหอมระเหยหยดลงบนสำลีแล้ววางไว้ในห้อง หรือจะใช้สเปรย์น้ำผสมน้ำมันหอมระเหยฉีดพ่นเบา ๆ ก็ได้

9. การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน

เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านสวย ๆ ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ มาดูวิธีทำความสะอาดกัน!

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้ 

ใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำผสมน้ำยาทำความสะอาดไม้เช็ดเบา ๆ แล้วเช็ดซ้ำด้วยผ้าแห้ง อย่าลืมทาน้ำมันบำรุงไม้เดือนละครั้งเพื่อให้เนื้อไม้ชุ่มชื้นและเงางาม

ส่วนโซฟาหนัง 

ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาด แล้วใช้ครีมบำรุงหนังทาเพื่อป้องกันรอยแตกและรักษาความนุ่มของหนัง

สำหรับของตกแต่งประเภทแก้วหรือคริสตัล 

ใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานเล็กน้อยเช็ดเบา ๆ แล้วเช็ดซ้ำด้วยผ้าแห้งให้เงางาม

เคล็ดลับเด็ด: สำหรับรอยขีดข่วนบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ ลองใช้เนื้อในของถั่วลิสงถูเบา ๆ น้ำมันจากถั่วจะช่วยซ่อมแซมรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างน่าทึ่งเลย!

10. การจัดระเบียบและจัดเก็บของใช้ในบ้าน

บ้านที่เป็นระเบียบไม่เพียงแต่ดูสะอาดตา แต่ยังช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้นด้วย มาดูเทคนิคการจัดระเบียบกัน!

  1. เริ่มจากการแยกของที่ใช้บ่อยและไม่ค่อยได้ใช้ ของที่ใช้บ่อยควรเก็บในที่หยิบง่าย ส่วนของที่ไม่ค่อยได้ใช้อาจเก็บในกล่องหรือตู้เก็บของ
  2. ใช้กล่องหรือตะกร้าจัดหมวดหมู่ของใช้ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์เครื่องเขียน ของเล่นเด็ก หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แล้วติดป้ายบอกไว้ให้ชัดเจน
  3. สำหรับตู้เสื้อผ้า ลองใช้วิธีพับเสื้อผ้าแบบ KonMari ที่วางเสื้อผ้าในลิ้นชักแนวตั้ง จะช่วยประหยัดพื้นที่และมองเห็นเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น

สรุป

เห็นไหมล่ะว่าการทำความสะอาดบ้านแบบมืออาชีพไม่ใช่เรื่องยากเลย! ด้วยเทคนิคเหล่านี้ คุณจะสามารถทำให้บ้านสะอาด เป็นระเบียบ และน่าอยู่ขึ้นอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่มีเวลาพอ หรืออยากให้มืออาชีพจริง ๆ มาช่วยจัดการ ก็ไม่ต้องกังวลนะ!

ปัจจุบันมีบริการแม่บ้านออนไลน์ที่สะดวกและน่าเชื่อถือมากขึ้น คุณสามารถหาแม่บ้านออนไลน์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญได้ง่ายๆ การจ้างแม่บ้านออนไลน์ก็ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป แถมมีแม่บ้านออนไลน์ราคาให้เลือกหลากหลายตามความต้องการและงบประมาณของคุณด้วย

และถ้าคุณกำลังมองหาแอปพลิเคชันที่จะช่วยให้การจ้างแม่บ้านง่ายขึ้น ลองดู BeHELP สิ! แอปนี้ช่วยให้คุณหาและจ้างแม่บ้านออนไลน์ที่มีคุณภาพได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว มีระบบรีวิวและการันตีคุณภาพ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้บริการที่ดีที่สุด.

 

💛 BeHELP เพราะทุกเรื่องเราช่วยได้ 💛

***********************************************

BeHELP บริการแม่บ้านมืออาชีพแบบไป-กลับ รายชั่วโมง

ติดต่อสอบถาม : inbox page

Tel : 02-096-5479 กด 1

Line ID : @behelp

เริ่มดาวน์โหลด BeHELP บน App Store / Play Store ได้ตลอด 24 ชม. โปรโมชั่นเพียบ